จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ทำแฮททริกได้เป็นครั้งที่ 2 จากการลงเล่น 3 นัดและเป็นครั้งที่ 4 ในฤดูกาลนี้ ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกกระหน่ำเอาชนะเบอร์มิงแฮม ที่สนามเซนต์ แอนดรูว์ส
ดาร์รอน กิ๊บสัน ทำประตูที่ 2 ของตัวเองในทีมสำรองในฤดูกาลนี้ โดยทีมของเรเน่ เมลเลนสทีน กลับคืนสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังจากการพ่ายแพ้ต่อแอสตัน วิลล่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ ยังคงกำลังฟื้นตัวกลับมาจากอาการบาดเจ็บ รวมทั้งมาร์ค โฮเวิร์ด ซึ่งได้ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับเคราร์ด ปิเก้ โดยมีคีแรน ลี และฟิล บาร์ดสลี่ย์ เป็นฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้าง และผู้รักษาประตูเป็นหน้าที่ของลุค สตีล
เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ จับคู่กับจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ในแผงกองหน้า ในขณะที่โซลชาร์ ลงเล่นเป็นปีกซ้ายเคียงข้างริทชี่ โจนส์, ดาร์รอน กิ๊บสัน และมาร์คุส นอยมาร์ ในแผงกองกลาง
ฟิล มาร์ช ตกไปเป็นตัวสำรองหลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีในตำแหน่งฟูลแบ็คจำเป็น และตัวสำรองคนอื่นได้แก่ รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, เคร็ก แคธคาร์ท, แดนนี่ โรส และไคล์ มอแรน
ศูนย์กลางในการเล่นอย่างยอดเยี่ยมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์ ซึ่งดูเฉียบคมอย่างมากและโชคไม่ดีที่ไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูในนัดนี้
ปิศาจแดง ซึ่งมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะลบล้างความผิดหวังจากการพ่ายแพ้ต่อวิลล่า เปิดฉากบุกทันทีตั้งแต่เริ่มเกมและขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจากรอสซี่
โซลชาร์ ในตำแหน่งปีกซ้ายพาบอลหาที่ว่างไปสุดเส้นหลังก่อนที่จะเปิดกลับเข้ากลางไปเข้าทางเจ้าหนูดาวยิงชาวอิตาลี ซึ่งได้ยิงง่ายๆ จากระยะ 8 หลาเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 14
ความเรียบง่ายของการทำประตูเบิกร่องเกิดขึ้นอีกครั้งในประตูที่ 2 ของรอสซี่ แต่มีการตกแต่งเพิ่มเติมด้วยการจ่ายบอลจังหวะเดียวอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งจบลงด้วยการทำประตูอย่างเยือกเย็นอีกครั้งของกองหน้าร่างเล็ก
ริทชี่ โจนส์ ไหลบอลให้กับรอสซี่ ซึ่งอยู่ห่างจากประตูประมาณ 40 หลา ดาวรุ่งชาวอิตาลีจ่ายบอลต่อทันทีไปให้กับโซลชาร์ ซึ่งแทงบอลต่อให้กับคีแรน ลี แบ็คซ้ายดาวรุ่งเปิดบอลอย่างสมบูรณ์แบบพอดีทะลุผ่านแผงกองหลังของเบอร์มิงแฮม ไปถึงรอสซี่ ซึ่งทำประตูที่ 2 ให้กับปิศาจแดง ด้วยการชิพบอลนิ่มๆ ข้ามตัวอดัม เลกซ์ดินส์ ผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็น 2-0 ในนาทีที่ 30
กองหน้าร่างเล็กวัย 19 ปีมีส่วนร่วมอีกครั้งในประตูที่ 3 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คราวนี้เขายิงลูกฟรีคิกไปติดกำแพงเด้งออกมาเข้าทางกิ๊บสัน ซัดไกลจากระยะ 25 หลาเข้าไปตุงตาข่ายอย่างงดงาม แม้ว่าเลกซ์ดินส์ จะปัดโดนบอลแต่ไม่เพียงพอที่จะปฏิเสธกองกลางชาวไอริชในการทำประตูที่ 2 ของเขาในฤดูกาลนี้ให้กับทีมของเมลเลนสทีน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 40
เกมนัดนี้ถูกตัดสินไปแล้วจากผลการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก แต่ปิศาจแดง ก็ยังคงเล่นด้วยความมุ่งมั่นเพื่อทำประตูเพิ่มอีกหลังจากช่วงพักครึ่งเวลา
โซลชาร์ เกือบทำประตูได้จากการวอลเล่ย์มุมแคบอย่างยอดเยี่ยมไปชนเสา และมาร์ค โฮเวิร์ด ก็โหม่งบอลระยะ 6 หลาจากลูกเปิดของดาวยิงชาวนอร์เวย์ไปชนอีกเสา ก่อนที่รอสซี่ จะมาทำแฮททริกได้สำเร็จ
ดาวยิงร่างเล็กลงไปเอาบอลจากแผงกองกลาง พาบอลหนีตัวประกบ และลากบอลจี้เข้าใส่แผงกองหลังที่ถอยหนี ก่อนที่จะซัดด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 15 หลาเสียบเสาใกล้เข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำห่างสุดกู่ 4-0 ในนาทีที่ 67
เลกซ์ดินส์ ปฏิเสธประตูที่ 4 ของรอสซี่ โดนการป้องกันลูกชิพระยะใกล้เอาไว้ได้ และยังพุ่งปัดลูกยิงระยะใกล้ของโซลชาร์ ก่อนที่แดนนี่ โรส จะตามเข้ามาโหม่งซ้ำไปชนเสา
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฟิล มาร์ช ไหลบอลทะลุช่องอย่างสุดยอดไปให้กับดาวยิงชาวนอร์เวย์ซัดข้ามคานออกไป แต่ประตูคือสิ่งที่ขาดหายไปเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นจากผลงานการเล่นที่เฉียบคมมากขึ้นของยอดนักเตะขวัญใจกองเชียร์
ชัยชนะในนัดนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคะแนนนำห่างมิดเดิ้ลสโบรซ์ รองจ่าฝูง 4 คะแนน โดยลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด และมี 8 คะแนนมากกว่าแอสตัน วิลล่า ทีมอันดับที่ 3 ของตารางลีกสำรอง
รายชื่อผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลุค สตีล, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, คีแรน ลี (ฟิล มาร์ช น. 46), มาร์ค โฮเวิร์ด, เคราร์ด ปิเก้, ดาร์รอน กิ๊บสัน, มาร์คุส นอยมาร์, ริทชี่ โจนส์, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (แดนนี่ โรส น. 74), จูเซ็ปเป้ รอสซี่, โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, เคร็ก แคธคาร์ท, ไคล์ มอแรน
DaKinG

By Max